บันทึกเมื่อวันที่ 08 พฤษภาคม 2550 ชม 2308 ครั้ง
บันทึกโดยคุณ lalita
ตามรอยสืบ นาคะเสถียร : มองผ่านเลนส์เห็นความสุข ครั้งที่ 2
ใครๆก็คิดว่า อยากมีสุขภาพดีก็ไปออกกำลังกายซิ หลายคนลืมคิดไปว่านอกจากร่างกายแล้ว จิตใจก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งของสุขภาพ ความสุขเป็นเครื่องชี้นำอันหนึ่งที่จะนำเราไปสู่การมีสุขภาพจิตที่ดีได้ ดังนั้น จึงเกิดโครงการมองผ่านเลนส์เห็นความสุขขึ้น และในปีการศึกษา 2548 โครงการมองผ่านเลนส์เห็นความสุขครั้งที่ 2 ส่วนหนึ่งจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสุขจากการมีชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล โดยใช้ภาพถ่ายเป็นสื่อในการถ่ายทอดความสุข ซึ่งกิจกกรมในครั้งนี้จะเป็นการเรียนรู้ผ่านชีวประวัติบุคคลสำคัญ คือ คุณสืบ นาคะเสถียร คนที่ยอมอุทิศตนเพื่อชีวิตของป่าไม้ สัตว์ป่า และเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ดังนั้น จึงเกิดกิจกรรม ตามรอยสืบ(นาคะเสถียร) ขึ้น ภายใต้โครงการมองผ่านเลนส์เห็นความสุขครั้งที่ 2
ในช่วงแรกจะเป็นเหมือนการศึกษาภาคทฤษฎี คือ หลังจากหาผู้สนใจเข้าร่วมเป็นคณะทำงานของโครงการได้แล้ว ก็มีการติดโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารแก่สาธารณะให้รู้จักดอยม่อนจองทั้งในมิติของความสำคัญเชิงระบบนิเวศ ภูมิประเทศ และประวัติศาสตร์ ซึ่งดอยม่อนจองเป็นที่ที่พวกเราจะไปตามรอยการศึกษาสภาพธรรมชาติ ช้างป่า และกวางผาของคุณสืบ นอกจากนี้ก็จะมีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับชีวประวัติของคุณสืบ นาคะเสถียร และประวัติการทำงานในส่วนที่เกี่ยวกับดอยม่อนจอง มีการเผยแพร่เกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หลังจากนั้นก็เปิดรับสมัครผู้ที่จะเข้าร่วมเดินทางไปดอยม่อนจองโดยคัดเลือกจากการตอบคำถามจากความรู้ที่ได้ประชาสัมพันธ์ไป และก่อนที่จะถึงวันเดินทางมีการปฐมนิเทศโดยพวกเราได้รับเกียรติจากอาจารย์นายแพทย์รังสฤษฏ์ กาญจนะวนิชย์ ประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนามาบรรยายให้ฟังเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ สัตว์นานาชนิด ข้อควรปฏิบัติในการเที่ยวชมธรรมชาติ มีการนำเสนอเรื่องราวของคุณสืบ นาคะเสถียรผ่านทางวีดีทัศน์ และอาจารย์ยังได้ปลูกจิตสำนึกให้กับพวกเราเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วย
ในวันเดินทางพวกเราก็จะได้นำความรู้ทั้งหมดมาใช้ในภาคปฏิบัติ แต่ในระหว่างการเดินทางจากเชียงใหม่ไปที่ม่อนจองรถที่พวกเรานั่งไปเกิดขัดข้อง แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากกรมป่าไม้ช่วยนำรถมารับ ถึงแม้จะทำให้ล่าช้ากว่ากำหนดแต่ก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย และเห็นความห่วงใยและมิตรภาพจากผู้ร่วมเดินทาง ก่อนเดินขึ้นดอยพวกเราได้ไปชมที่เพาะพันธุ์กวางผาซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ หลังจากนั้นก็ใช้เวลาเดินขึ้นดอยม่อนจองประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางจะได้ถ่ายรูป ดูนกและพันธุ์ไม้แปลกๆ ช่วงกลางคืนเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการเดินทางที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประเมินผลโครงการไปในตัว ตอนเช้ามืดของวันรุ่งขึ้นพวกเราได้เดินไปที่ยอดดอยเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ถ่ายรูป ชมกุหลาบพันปี และเดินทางกลับ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ก็มีการประกวดภาพถ่ายพร้อมคำบรรยายใต้ภาพ ในหัวข้อ “ความสุข” และมีการถ่ายทอดความสุขโดยจัดแสดงภาพถ่ายที่ร่วมส่งเข้าประกวด
โดยภาพรวมแล้วโครงการนี้ประสบผลสำเร็จไปอีกระดับหนึ่งโดยประเมินจากจำนวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่กำหนดไว้ การตอบคำถามในใบสมัครแสดงถึงความสนใจในการติดตามอ่านโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อการจัดกิจกรรมส่วนใหญ่จะออกมาในด้านบวกและส่วนใหญ่พอใจต่อการเข้ารับฟังการปฐมนิเทศมากซึ่งสมาชิกได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศตั้งแต่ก่อนเดินทาง ทำให้ในขณะเดินทางผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความสนใจและเคารพต่อธรรมชาติอย่างมาก
จากการทัศนศึกษาในครั้งนี้ทำให้พวกเราได้เรียนรู้ว่า จุดหมายของการเดินทางไม่ใช่ยอดดอย แต่เป็นมิตรภาพและน้ำใจจากผู้ร่วมเดินทาง
|